วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

CSR กับการแบ่งปันความรัก


โดย ดุสิต รัชตเศรษฐนันท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายบริหารทรัพยากร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ถึง แม้ว่าเดือนแห่งความรักมาแล้วก็ตาม แต่การมอบความรักความอบอุ่นให้แก่กันใช่ว่าจะมีแค่เดือนเดียวใน 1 ปี เพราะมนุษย์เราต้องมีการแบ่งปันความรักให้คนรอบข้างตลอดเวลาไม่มากก็น้อย แต่ในอีกมุมหนึ่งของสังคมไทยก็ยังมีบางคนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับความรักจากคน ที่รักและคนใกล้ชิดมานานแล้ว บางคนก็รู้สึกเองว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้รู้จักคำว่า "รัก" เลยก็มี ความรักที่ว่ามีทั้งรักคนในครอบครัว รักระหว่างวัยเรียน รักในวัยทำงาน และรักอีกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งใครจะมอบให้แก่กันก็ได้ไม่มีข้อจำกัด

สำหรับ "ผู้ด้อยโอกาส" เราพบว่ายังมีอีกมากมายในสังคมที่ขาดการดูแลเอาใจใส่มานาน ชีวิตต้องดำเนินโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีที่พึ่งพิงให้คำปรึกษา ซึ่งครั้งนี้จะขอพูดถึงเด็กกลุ่มหนึ่งที่ประสบปัญหาถูกทารุณกรรมทั้งทางร่าง กายและจิตใจ เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด นั่นก็คือ เด็กหญิงจากสถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร ที่ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุระหว่าง 5-18 ปีที่อยู่ในสภาพจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง พักพิงอยู่รวมกันกว่า 100 ชีวิต และอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ผู้สวมบทบาทเป็นพ่อแม่เท่านั้น บางคนไม่เจอครอบครัวมานานแล้ว บางคนมีโอกาสได้เจอะเจอบ้างแต่ไม่บ่อยนัก

สถาน แรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร มีบทบาทสำคัญเพื่อปกป้อง คุ้มครอง และเลี้ยงดูเด็กที่รับไว้ในความอุปการะให้ได้รับความปลอดภัย รอดพ้นจากปัญหาที่เผชิญอยู่ รวมทั้งเพิ่มพูนสติปัญญาทั้งทางด้านการศึกษาสามัญ วิชาชีพ ทักษะชีวิต และได้รับการพัฒนาวุฒิภาวะอารมณ์ จิตใจ ให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดีงาม โดยกระบวนการทางด้านการแพทย์ทั้งทางกายและจิตเวช รวมทั้งกระบวนการทางด้านจิตวิทยาและสังคมสงเคราะห์

นับเป็นโอกาสดี ที่ "เคทีซี" มีโอกาสในการช่วยเหลือและสนับสนุนเยาวชน โดยเข้าไปสัมผัสกับความเป็นอยู่ของเด็กหญิง ผู้ด้อยโอกาสที่บ้านธัญญพร และร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกำลังของชาติในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารและภูมิทัศน์ ภายในบ้านธัญญพรเป็นลำดับแรก ด้วยหวังให้ทุกคนในบ้านได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นภายใต้ สิ่งแวดล้อมที่ดี แต่เพื่อให้การพัฒนาเยาวชนเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เคทีซีจึงได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมและมอบหมายให้มูลนิธิรักษ์ไทย ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีความพร้อมและประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมช่วย เหลือชุมชนและ ผู้ด้อยโอกาส ให้เข้ามาช่วยบริหารจัดการและสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กหญิงบ้าน ธัญญพรในระยะยาว ภายใต้ชื่อโครงการ "สานฝันปันรักเพื่อน้องบ้านธัญญพร"

โครงการนี้เน้นการทำกิจกรรมแบบองค์รวม (holistic) ที่มุ่งพัฒนาเยาวชนทั้งด้านร่างกาย

จิต ใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้เด็กหญิงที่ประสบปัญหาลดภาวะความเครียดในจิตใจ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว เพราะเราเชื่อมั่นว่าสังคมที่ดีต้องเริ่มต้นจากเยาวชนที่มีคุณภาพ และเหนืออื่นใดต้องมีพื้นฐานความรักความอบอุ่นมาจากสถาบันครอบครัวที่เข้ม แข็ง โดยหลังจากที่เด็กได้พ้นการอุปการะแล้ว บ้านธัญญพรจะติดตามผลว่าเด็กสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข หรือไม่ จนกว่าจะมั่นใจว่าเด็กจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในสังคมจึงจะสิ้น สุดการช่วยเหลือ

สำหรับกิจกรรมภายใต้โครงการจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ 1.การปรับปรุงซ่อมแซมอาคารและอาณาบริเวณทั้งภายในและภายนอกของบ้านธัญญพร เพื่อปรับสภาพแวดล้อมของบ้านให้เหมาะสมกับคุณภาพชีวิต มีความน่าอยู่ ถูกสุขลักษณะ เป็นสัดส่วน เกิดความผ่อนคลายในการอยู่อาศัย และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน 2.การจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ จิตใจ ทักษะชีวิตและด้านวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยมีกิจกรรมย่อยหลากหลาย อาทิ การอบรมภาวะผู้นำ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็กและเยาวชนสามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ ทั้งในและนอกสถานที่ พัฒนาทักษะ "จิตอาสา" ส่งเสริมให้เด็กๆ ตระหนักในคุณค่าของตนเองด้วยการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น การอบรมให้ความรู้ในเรื่องเพศศึกษา เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องการดูแลสุขอนามัยในวัยเจริญพันธุ์ สุขภาพทางเพศ และภาวะการปรับตัวของหญิงชายที่ควรรู้ กิจกรรมด้านการเกษตร โดยให้เด็กมีส่วนร่วมในการพัฒนาภูมิทัศน์ภายในบ้านธัญญพรให้ร่มรื่น รวมถึงสามารถนำผลผลิตที่ได้มาแปรรูปให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของเด็กๆ บ้านธัญญพรให้สามารถนำไปปรับใช้และปรับตัวเข้ากับสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่าง ดี

การจัดโครงการ "สานฝันปันรักเพื่อน้องบ้านธัญญพร" ของเคทีซีในครั้งนี้เป็นเพียงก้าวหนึ่งของการสานต่อความตั้งใจที่ต้องการ ผลักดันให้เยาวชนไทยได้รับโอกาสที่ดีทางสังคมอีกครั้ง เพื่อสร้างเสริมให้สังคมไทยเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อรณรงค์ให้คนในสังคมและให้ความสำคัญกับเยาวชนไทยอย่างจริงจัง

โดย เฉพาะสถาบันครอบครัวควรจะเป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในการปลูกฝังให้บุตรหลานของท่านเป็นคนดีและมี คุณภาพต่อไป เชื่อว่าทุกองค์กรก็สามารถแบ่งปันความรักในลักษณะเช่นนี้ให้กับ "ผู้ด้อยโอกาส" อีกมากมายได้เช่นกัน เพราะถ้าเราเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ สังคมไทยในอนาคตก็คงสดใสเพราะมีรอยยิ้มของคนที่ได้รับความรักเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง อีกด้วย


ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 7 เมษายน 2551
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr03070451&day=2008-04-07&sectionid=0221

ไม่มีความคิดเห็น: