เป็น เพราะมองว่า แนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) นั้นไม่ใช่กระแสอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนกระบวนคิดและกระบวนการในการทำธุรกิจไปอย่างไม่ มีวันกลับพิสูจน์จากการออกมาตรการและแนวปฏิบัติผ่านข้อตกลง ระหว่างประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวปฏิบัติสำหรับบรรษัทข้ามชาติ (The OECD Guidelines) ของ OECD หรือองค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ที่เสนอแนะให้บรรษัทข้ามชาติของประเทศสมาชิก OECD ให้มี CSR และติดต่อค้าขายเฉพาะกับ คู่ค้าที่มี CSR เท่านั้น
หรือมาตรฐาน ISO 26000 ที่ว่าด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมที่กำลังจะประกาศใช้ในปี 2553 แม้ว่าในเบื้องต้นจะเป็นเพียงแนวปฏิบัติ แต่ดูเหมือนว่าในอนาคตผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ฟันธงว่า ในวันหนึ่งย่อมมีการรองรับมาตรฐานเช่นเดียวกับมาตรฐานอื่นของ ISO ที่ผ่านมา
รวม ไปถึงการประเมินมูลค่าขององค์กรที่ วันนี้มีดัชนีจำนวนมากที่วัดคุณค่าและมูลค่าขององค์กรธุรกิจและแบรนด์ด้วย การมองเรื่องความใส่ใจในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนประกอบ
ปัจจุบัน ในไทย ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็กำลังอยู่ระหว่างขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่ส่งเสริมแนวคิดนี้ แต่ปัจจุบันยังจัดทำหลักเกณฑ์และแนวทางเบื้องต้นในการดำเนินการเกี่ยวกับ ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจที่เรียกว่า "เข็มทิศธุรกิจเพื่อสังคม"
ฉะนั้น ไม่ว่าธุรกิจจะมอง CSR อย่างไร จะชอบหรือไม่ จะคิดว่าเป็นภาระหรือต้นทุน แต่ที่แน่ๆ วันนี้ท่ามกลางบรรยากาศในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ดูเหมือนว่าสิ่งเดียวที่องค์กรธุรกิจไทยสามารถที่จะทำได้คือ การปรับตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น และนำเอาแนวคิด CSR เข้ามาผสานในธุรกิจอย่างมี กลยุทธ์และจัดสรรทรัพยากรทั้งงบประมาณและบุคคลให้เกิดประสิทธิผลต่อองค์กร และสังคมอย่างสูงสุด
คิกออฟหลักสูตรแรกในไทย
เหตุผล ต่างๆ ที่กล่าวมาทำให้หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจและสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เห็นถึงความจำเป็นในการทำหลักสูตรเพื่อให้ความรู้เรื่องความรับผิดชอบต่อ สังคมขององค์กร (CSR) อย่างถูกต้อง เพื่อให้องค์กรธุรกิจไทยสามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ว่าอย่าง เป็นรูปธรรม
ภายใต้ชื่อโครงการ "CSR Academy" ที่จะดึงเอานักวิชาการ อาทิ ผศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ไกรสรสุธาสินี อาจารย์ประจำภาคการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อนันตชัย ยูรประถม นักวิชาการด้าน CSR โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้าน CSR ที่เคยขับเคลื่อน CSR ในองค์กรที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว จากองค์กรต่างๆ อาทิ บมจ.บางจากปิโตรเลียม บริษัท โคคา โคลา (ประเทศไทย) บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูวนิเคชั่น ฯลฯ ผ่านหลักสูตรอบรม เชิงปฏิบัติการใน 6 หัวข้อซึ่งครอบคลุมการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในทุกมิติ ตั้งแต่กระบวนการดำเนินธุรกิจภายในองค์กรจนถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ภายนอกองค์กร ด้วยมุมมองของการขับเคลื่อน CSR ขององค์กรในเชิงระบบ
" นงราม วงษ์วานิช" รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) กล่าวว่า สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม หรือ CSRI เป็นหน่วยงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมภาค ธุรกิจให้มีการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง 1 ใน 4 พันธกิจหลักของ CSRI คือ การทำหน้าที่เป็น knowledge base หรือแหล่งรวมความรู้ด้าน CSR แก่ภาคธุรกิจและผู้ที่สนใจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ตรงกันกับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
ซึ่งได้ทำ หน้าที่ผลักดันเรื่อง CSR มาอย่างต่อเนื่อง CSRI จึงได้ร่วมงานกันในการจัดหลักสูตร CSR Academy ในครั้งนี้ เพื่อให้การเผยแพร่ความรู้ด้าน CSR แพร่หลายมากขึ้น
ที่สำคัญคือต้อง การให้ภาคธุรกิจ รวมถึงองค์กรต่างๆ ได้รับทราบถึงแนวคิดการทำ CSR ที่ถูกต้อง เพราะภาคธุรกิจหรือองค์กรที่มี CSR จะเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนจากทั้งพนักงาน ผู้ถือหุ้น ชุมชน และสังคมโดยรวม ซึ่งส่งผลโดยตรงในการทำให้การเติบโตขององค์กรนั้นมีความยั่งยืนและแน่นอน ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมให้สามารถเติบโตเคียงคู่ไปด้วยกัน หลักสูตรนี้จะทำให้ผู้เข้าอบรมได้รับทราบวิธีปฏิบัติและแนวคิดที่ถูกต้อง รวมถึงกรณีศึกษาที่น่าสนใจ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการทำ CSR ในองค์กรต่างๆ ซึ่งไม่เฉพาะภาคธุรกิจเท่านั้น ที่ต้องให้ความสนใจ แต่องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ก็ควรเรียนรู้วิธีการทำ CSR ที่ถูกต้องนี้ด้วยเช่นกัน
คือโอกาส คือความท้าทาย
นงราม กล่าวด้วยว่า "ที่ผ่านมาเราพบว่ายังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ CSR อยู่บางประการ เช่น ความเข้าใจที่ว่าการทำ CSR ต้องมีงบประมาณสูงเท่านั้น หรือการบริจาคเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าได้ทำ CSR ครบถ้วนแล้ว CSR Academy จะให้คำตอบว่า การทำ CSR นั้นทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณแม้เพียงบาทเดียว
โดย การทำ CSR ที่ถูกต้องนั้นต้องมาจากภายในองค์กร รวมถึงการที่ผู้บริหารมีความรับผิดชอบ โปร่งใส สุจริต ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแนวทางการทำ CSR จากภายในองค์กรเช่นเดียวกัน ซึ่งการทำสิ่งนี้ไม่ต้องใช้งบประมาณใดๆ เลย"
ด้าน "บุญลาภ ภูสุวรรณ" บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ กล่าวว่า จากการเห็นความสำคัญของเรื่อง CSR ทำให้ที่ผ่านมาประชาชาติธุรกิจเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เปิดพื้นที่ในหน้า หนังสือพิมพ์เพื่อนำเสนอข่าวเป็นเวลากว่า 3 ปี รวมถึงการจัดเวทีสัมมนามาแล้วกว่า 5 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งได้รับความสนใจจากผู้เข้าฟังจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ทำให้เห็นว่าในขณะนี้ภาคธุรกิจมีความตื่นตัว ในเรื่องนี้มาก
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินการทำงานที่ผ่านมาพบว่าบางครั้งเวทีสัมมนามีข้อจำกัดในเรื่อง เวลาและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ประกอบกับผู้เข้าสัมมนาส่วนใหญ่ให้ความเห็นผ่านแบบสอบถามว่า ต้องการองค์ความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม
และ เมื่อมองไปในตลาดวันนี้ยังไม่มีหลักสูตรอบรมหรือแหล่งข้อมูลที่มากเพียงพอจะ ตอบโจทย์ดังกล่าว ทำให้เห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องมีการทำหลักสูตรอบรมด้าน CSR อย่างครบถ้วนขึ้น โดยออกแบบให้เป็นการอบรมแบบเต็มวัน 6 ครั้ง ซึ่งผู้เข้าฟังสามารถเลือกหัวข้อได้ตามความสนใจ และแต่ละครั้งจะรับผู้เข้าอบรมเพียง 30 คน ซึ่งจะทำให้เกิดบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น โดยหลักสูตรเหมาะกับองค์กรทุกประเภท
" หลังจากเปิดตัวหลักสูตรไป คนที่สอบถามเข้ามาส่วนหนึ่งตั้งคำถามกับเราว่า ในฐานะที่เขาเป็นองค์กรขนาดกลางถึงเล็ก จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทำเรื่องเหล่านี้ เราพยายามอธิบายว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดไหน เรื่องนี้กำลังมีความจำเป็น เพราะความตื่นตัวของบริษัทขนาดใหญ่ทำให้ซัพพลายเออร์ก็ต้องให้ความสนใจ เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ค้าขายด้วย หรือเราจะเห็นว่าปัจจุบันแนวโน้มผู้บริโภคก็กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ มากยิ่งขึ้น ถึงวันนี้อาจพูดได้ว่า CSR ไปไกลกว่าคำว่าแฟชั่น และกำลังจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของทุกวันในการดำเนินธุรกิจ" บุญลาภกล่าว
6 หลักสูตรครบเครื่องเรื่อง CSR
สำหรับหลักสูตรจะประกอบไปด้วย 6 หัวข้อหลัก ได้แก่ 1.เจาะลึก CSR แนวปฏิบัติสู่องค์กรที่ยั่งยืน
2. ยกระดับ CSR องค์กรสู่การสร้างกลยุทธ์ (strategic CSR) 3.การสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมอย่างมีกลยุทธ์ (strategic CSI) ในหัวข้อนี้จะมุ่งไปที่การดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมภายนอกที่เหมาะ สมกับองค์กร ผ่านรูปแบบต่างๆ เพื่อการสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดคุณ ค่ามากที่สุดและเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสังคมและองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่โครงการที่ยั่งยืน 4.แนวทางการประเมินผลและการจัดทำรายงาน CSR 5.คิดนอกกรอบสื่อสาร CSR ให้มีประสิทธิผล (communication CSR) 6.ครบเครื่อง CSR ในมิติของการ ตลาด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ 0-2580-0021 ต่อ 1505
และนี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในรอบปีที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง !!
ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 12 เมษายน 2551
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr01120551&day=2008-05-12§ionid=0221
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น