วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

แรงลม สร้างแรงใจ



" เคียวเซ" (Kyosei) เป็นปรัชญาที่ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลกอย่าง "แคนนอน" ยึดถือในการดำเนินธุรกิจ ที่หมายถึงการพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมๆ กับการสร้างสรรค์โลกและความสุขของมวลมนุษย์ ซึ่ง แคนนอนกรุ๊ปที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกจะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ปรัชญาดังกล่าวที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ ในปีนี้ภารกิจ "แก้ไขภาวะโลกร้อนของแคนนอน" ถูกนำมาเป็นประเด็นสำคัญในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเริ่มต้นปฏิบัติการไปก่อนหน้านี้ ที่สำนักงานใหญ่ของแคนนอนที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่การประหยัดพลังงาน การลดสารพิษในการผลิตให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึงการลดของเสียและพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า การประหยัดพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ฯลฯ

ในประเทศไทย โอกาสที่ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด จะครบรอบ 15 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญา "เคียวเซ" จึงจัดโครงการ "พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียว" ช่วยติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าที่พัฒนาโดยนักวิชาการจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้แก่โรงเรียนชนบท 15 แห่งทั่วประเทศ พร้อมนำ พนักงานมาช่วยกันปรับปรุงโรงเรียนและนำอุปกรณ์จำเป็นมาให้ เพื่อให้เยาวชนจะได้เข้าใจเรื่องพลังงานสะอาด พร้อมรณรงค์ให้คนไทยได้ตระหนักและหันมาใช้พลังงานทางเลือกซึ่งเป็นภูมิปัญญา ท้องถิ่นไทย มากขึ้น และยังช่วยสนับสนุนผลงานของ นักวิจัยไทย

วาตา รุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า พลังงานเป็นความจำเป็นขั้นพื้นฐานและเป็นตัวก่อปัญหา การผลิตกระแสไฟทำให้มีการใช้ฟอสซิลอันก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน แคนนอนเลือกทำพลังงานลมเพราะเป็นพลังงานสะอาด นับเป็นโชคดีของคนไทยที่สร้างกังหันลมได้ด้วยเทคโนโลยีของตนเอง และสามารถนำมาใช้ในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในแง่ของสิ่งแวดล้อมก็สามารถลดภาวะโลกร้อนได้

"พลังงานลมเป็น พลังงานสะอาดที่คนไทยมีการนำมาใช้กว่า 100 ปี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือวิดน้ำเข้า นาเกลือ โครงการนี้จึงเป็นการสนับสนุนเพื่อคืนกลับสู่ภูมิปัญญาของไทยอีกครั้ง แคนนอนจึงได้นำกังหันลมผลิตไฟฟ้า 15 โรงเรียนทั่วประเทศ ให้นักเรียนได้ศึกษาพลังงานทดแทน และเป็นกรณีศึกษาเรื่องพลังงานทดแทนของท้องถิ่น โดยเริ่มที่โรงเรียนบ้านหนองพลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแห่งแรกที่คัดเลือกจากความเหมาะสมของลักษณะทางภูมิศาสตร์" วาตารุกล่าว

ด้าน เทคนิค สมเกียรติ พาพล ผู้อำนวยการ Corporate Affairs Division เล่าถึงกระบวนการทำงานของกังหันลมว่า การที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้นั้น กังหันจะต้องหมุนด้วยความเร็ว 2.5 เมตร/วินาที ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะผลิตกระแสไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ จากนั้นจะสะสมกระแสไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่และส่งต่อไปที่เครื่องแปรกระแสไฟฟ้า จากกระแสตรงเป็นกระแสสลับเพื่อจ่ายไฟฟ้าแก่หลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ต่อไป

"ถ้าเทียบระหว่างพลังงานลมกับโซลาร์ (แสงอาทิตย์) บางคนอาจคิดว่าประเทศไทยแดดแรง แต่ที่จริงแล้วแดดที่มีอยู่ใช้ได้แค่ 5-6 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น แต่ลมสามารถรับได้ 15-20 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ตัวแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ยังดูแลลำบาก ค่าบำรุงรักษาก็แพงกว่าลม ถึงทุนเริ่มต้นของกังหันลมจะแพงกว่า แต่ค่าใช้จ่ายการดูแลก็น้อยมาก และสามารถใช้ได้นานถึง 10-15 ปี จากนี้จะให้โรงเรียนเป็นผู้ดูแลต่อโดยเราจะเข้ามาแนะนำสนับสนุนเพิ่มเติม"

แม้ ว่ากังหันลมตัวหนึ่งต้องใช้งบประมาณถึงตัวละ 6 แสนกว่าบาท แต่ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าตามความต้องการของแคนนอนที่อยากเห็นโครงการ ระยะยาวที่มีความยั่งยืน หลังจากใช้พลังงานลมจากกังหันขนาด 1 กิโลวัตต์ โรงเรียนบ้านหนองพลับสามารถลดค่ากระแสไฟฟ้าได้เดือนละ 480 บาท (จากการประเมินค่ากระแสไฟฟ้าที่ยูนิตละ 4 บาท) หรือปีละถึง 5,760 บาท โดยภายในปีนี้แคนนอนจะติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้แก่โรงเรียน 3 แห่งในภาคกลาง คือ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 70 จังหวัดสมุทรสงคราม โรงเรียนเทศบาล 8 สวนสนชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และโรงเรียนบ้านหนองพลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และในปี 2552 อีก 12 โรงเรียน ซึ่งอยู่ในระหว่างการสำรวจข้อมูล

นอกจากการใช้พลังงานลมเพื่อเป็น พลังงานทดแทน แคนนอนได้ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม โดยทุกผลิตภัณฑ์ยึดหลัก EQCD ที่หมายถึงการไม่ผลิตสินค้าที่เป็นอันตราย หรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผลิตและจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เหมาะสมหรือมีการขนส่งที่ไม่ถูกต้อง มาใช้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไร้สารพิษ ปลอดภัยต่อทุกชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้สมกับหลักของ "เคียวเซ"


ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 1 ธันวาคม 2551
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr04011251&day=2008-12-01&sectionid=0221

ไม่มีความคิดเห็น: