วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

เบื้องหลัง..ลานเล่นบรีส

เบื้องหลัง..ลานเล่นบรีส "คนเล็ก หัวใจใหญ่"

หาก ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏในการส่งมอบ "ลานเล่นบรีส" โครงการเพื่อสังคมของยูนิลีเวอร์ ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2549 คือ รอยยิ้มของเด็กๆ ของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ที่วันนี้บริษัทได้จัดสร้างและทำการส่งมอบให้โรงเรียนไปแล้วกว่า 120 แห่ง เพื่อมุ่งส่งเสริมการเล่นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในการส่งเสริมการพัฒนาทั้ง ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของเด็ก และจะจัดสร้างและส่งมอบครบ 200 โรงเรียน ภายในปี 2552

ภาพเบื้องหลังรอยยิ้มเหล่านั้นที่น้อยคนอาจจะเคยได้ เห็น คือ พลังการทำงานของทีมงานอาสาสมัครของ "ยูนิลีเวอร์" จำนวนมากที่เข้าไปมีส่วนร่วมในทุกกระบวน การ ตั้งแต่ค้นหา สำรวจพื้นที่ที่เหมาะสม ตรวจงาน กระทั่งส่งมอบลานเล่น

ในโครงการ นอกจากให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและความเป็นเจ้าของของโรงเรียนและชุมชน โดยพิจารณามอบลานเล่นให้กับโรงเรียนที่เสนอขอโครงการเข้ามาที่มีศักยภาพ พร้อมที่จะดูแลและพัฒนาลานเล่น และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว

ยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพนักงาน !!

" อาสาสมัครพนักงาน" ของ "ยูนิลีเวอร์" จะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นทีมสำรวจพื้นที่ที่จะเข้าไปดูพื้นที่จริง และพิจารณาความเหมาะสมของโรงเรียน โดยอีกกลุ่มจะเป็นทีมตรวจสอบที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ในการตรวจเช็กหลังจากผู้รับเหมาเข้าไปติดตั้งเครื่องเล่น สอนการใช้เครื่องเล่นอย่างปลอดภัยให้กับเด็กๆ ก่อนจะส่งมอบ

แม้ว่าใน ช่วงปีแรกของโครงการจำนวนอาสาสมัครจะยังมีไม่มากนัก เช่นเดียวกับจุดเริ่มต้นของงานอาสาสมัครพนักงานในแทบทุกองค์กร หากแต่จำนวนอาสาสมัครที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน ย่อมเป็นเครื่องชี้วัดประการหนึ่งถึงการขยายวงของคลื่นความรับผิดชอบต่อ สังคมที่ถูกปลุกขึ้นในองค์กรในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

"ในช่วงแรกๆ ยังมีอาสาสมัครไม่มากนัก แต่ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยๆ ตอนนี้ในแผนกที่เราอยู่ก็มีทีมอาสาสมัคร 6-7 ทีม ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็สนใจจากการบอกเล่าประสบการณ์ที่เราไปทำมา เราพยายามบอกให้คนอื่นเห็นว่าโครงการที่ไปทำนั้นดี และขยายขึ้นเรื่อยๆ" "ศุภมาศ พูนสยามพงษ์" ซูเปอร์ไวเซอร์แผนกส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์อาหารและไอศกรีม หนึ่งในทีมอาสาสมัครรุ่นแรกของโครงการเล่าให้ฟัง

"ดี" ในมุมของเธอ นอกจากเป็นโอกาสในการให้กับคนอื่นแล้ว ยังได้เห็น ได้สัมผัสในสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส "อย่างภาคอีสานที่เราไม่เคยอยากไปเพราะคิดว่าลำบาก และคิดถึงคนที่นั่นไว้อีกแบบหนึ่ง แต่พอมีโอกาสไปลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เห็นเลยว่าสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เห็นแตกต่างกัน ชาวบ้านมีน้ำใจมาก"

ดัง นั้นหากจะวัดความสำเร็จของการมีส่วนร่วมของพนักงานในโครงการนี้ จำนวน "อาสาสมัคร" ที่เพิ่มขึ้นจาก 300 คนในปี 2549 มาเป็น 400 คน ในปี 2550 และ 700 คนในปัจจุบัน จึงอาจเป็นเพียงมุมหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น หากนัยสำคัญที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ เสน่ห์ของงานอาสาสมัคร

อย่าง ที่ "กิติพงษ์ โสมทัตต์คิดการดี" ผู้นำหน่วยการผลิตย่อย แผนกบรรจุผงซักฟอกบรีส กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ทำงานอาสามาอย่างต่อเนื่องว่า "เคยมีโอกาสไปเป็นทีมสำรวจโรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือ ไปคุยกับเด็กๆ ชาวเขา เขาเดินมาเรียนวันละ 8 กิโลเมตร รองเท้าไม่มีใส่ รู้สึกดีที่เราจะให้โอกาสดีๆ กับเขา แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้อยากทำต่อไปเรื่อยๆ คือ รอยยิ้มของเด็กๆ"

งานอาสาสมัครยังหล่อหลอมวิธีคิดและทัศนคติในการใช้ชีวิต ที่ส่งผลไปถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน

อย่างที่ "สุธีรา ชลนภากุล" ซูเปอร์ ไวเซอร์แผนกส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์อาหารและไอศกรีม บอกว่า

" การมีส่วนร่วมในโครงการนี้เหมือนเป็นสิ่งที่เติมชีวิตเราเอง จากงานที่เราทำ เมื่อก่อนเราตื่นเช้ามาทำงานเย็นกลับบ้าน เหมือนว่าเราใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ใครเลยแม้กระทั่งตัวเอง แต่พอมาทำตรงนี้รู้สึกว่านอกจากจะสร้างประโยชนฺ์ให้คนอื่น เรายังได้รู้ว่าเราอยู่สบายกว่าคนอื่น ทำให้เปลี่ยนความคิด ปกติคิดถึงแต่ตัวเอง แต่พอไปเห็นชีวิตเด็กๆ และชาวบ้านในต่างจังหวัดที่เข้าไปช่วย ทำให้เริ่มถอยกลับมา และคิดว่าคนเราก็มีสิ่งที่เอื้อกันได้ แล้วก็จะมีความสุข นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง"

และนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงาน

" พอทำงานเดิมที่คิดถึงแต่มุมของเราคนเดียว โดยไม่คิดถึงมุมของคนอื่นว่าทำไมเขาถึงทำให้เราไม่ได้ พอเรากลับมานั่งคิดถึงคนอื่นบ้าง ก็ได้ผล งานก็ไปได้ดีขึ้น และไปถึงปลายทางได้เหมือนกัน"

กับทีมงานบางครั้งแม้จะต้องทำงาน ประสานกับคนอื่นมาก รู้จักคนในองค์กรมาก แต่บางทีก็รู้จักเพียงภายนอกที่เห็น แต่การลงพื้นที่ไปต่างจังหวัดด้วยกันเพียง 2-3 วัน ทำให้ได้เรียนรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งของเขา

นี่เป็นเพียงบางแง่มุมของการมีส่วนร่วมของพนักงาน และเป็นบทเรียนของโครงการเพื่อสังคมที่เป็นมากกว่า "การให้"

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2551
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr03241151&day=2008-11-24&sectionid=0221

ไม่มีความคิดเห็น: