วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

ยุค CSR คู่การตลาด

ISO20006 หมัดเด็ด‘ไทยประกันชีวิต’
ชูยุทธศาสตร์ 3 ด้าน‘ให้-ดูแล-เติมเต็ม’

ขณะที่ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนองค์กรเพื่อการเติบโตในเชิงการตลาดกำลังก้าว เดินไปได้เพียง 1 ขวบปี ไทยประกันชีวิตก็ได้ประกาศยุทธศาสตร์สำคัญอีกด้านหนึ่ง ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับว่า มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) อย่าง เป็นระบบให้สมกับเป็นบริษัทประกัน ชีวิต ในอันดับต้นๆ ของธุรกิจที่ทุ่มความสำคัญให้กับกิจกรรมรับผิดชอบ ต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมาก กว่า 20 ปี

แค่บริการลูกค้ายังไม่พอ อัดกิจกรรมCSRเพื่อดูแลสังคม

หลังจากที่ “ไชย ไชยวรรณ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ประกาศนโยบาย การดำเนินงานในปี 2552 นี้ ด้วยการปรับเปลี่ยนไปในเรื่องของเป้าหมายการดำเนินงานจากเดิมกำหนดวัดผลกัน ที่ “เบี้ยปีแรก” (FYP) ก็เปลี่ยนมาเป็นการสร้างคุณค่าชีวิต โดยกำหนดเป็น “หน่วยของความสุข” หรือหมายถึง “จำนวนกรมธรรม์ประกันชีวิต” โดยให้เหตุผลว่า การมีหลักประกันชีวิตเปรียบเสมือนการมีหลักประกันแห่งความสุข โดยชูนโยบายหลักให้ทุกครอบครัวต้องมีกรมธรรม์ไทยประกันชีวิตอย่างน้อย 1 กรมธรรม์ ด้วยเหตุนี้ในปี 2552 นี้ จึงกำหนดเป้าหมายเพิ่ม จำนวนกรมธรรม์ใหม่อีก 613,613 กรมธรรม์ให้ได้

นอกจากนี้ยังไม่ลืมที่จะตอกย้ำถึง การมุ่งสร้างคุณค่าชีวิตว่า ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ลูกค้าของบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้คนในสังคมด้วย โดยที่ผ่านมางาน ด้านบริการของไทยประกันชีวิตถือว่า “แตกต่าง” จากบริษัทอยู่แล้ว อาทิ ไทยประกันชีวิต ฮอตไลน์ บริการทางการแพทย์ และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็น “จุดแข็ง” ที่บริษัทอื่นไม่มี หรือจะเป็น ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ไทยประกันชีวิตเมดิแคร์ บริการอำนวย ความสะดวกกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 250 แห่ง และ ไทยประกันชีวิตอีซี่ เปย์ ช่องทางการชำระเบี้ยประกันที่มากถึง 10 ช่องทาง รวมถึงการเติมเต็มความสุขให้ผู้เอาประกันผ่านคลับไทยประกันชีวิต


“ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจภาย ใต้แนวคิดการเพิ่มคุณค่าในการดำรงชีวิต จึงมุ่งมั่นมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากว่า 3 ล้านรายได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกด้าน รวมถึงดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมไทยมาอย่าง ต่อเนื่องยาวนาน ในฐานะองค์กรที่ดีของ สังคม อันจะส่งผลให้สังคมไทยเกิด ความเข้มแข็งต่อไป”

ได้ฤกษ์สังคายนางาน CSR ใหม่ จ้าง “ไทยพัฒน์” วางแผนแม่บท

ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนานไม่ต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงรณรงค์ให้บุคลากรของบริษัทเป็นพนักงานจิตอาสา หรือ CSR Agent เพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตของตนเองและผู้อื่น ไปพร้อมๆ กัน

วันนี้ ไทยประกันชีวิต ก็ได้ปรับกระบวนทัศน์ด้าน CSR ของบริษัท โดยวางเป็น “แผนแม่บท” เพื่อให้การดำเนินกิจกรรม CSR ของบริษัทเป็นไปอย่างมีแบบแผนและเกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยได้มอบหมายให้สถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็น ผู้ดำเนินการศึกษา และจัดทำแผนแม่บท ด้าน CSR ของไทยประกันชีวิตขึ้นมา โดยพิจารณาจาก วิสัยทัศน์ ค่านิยม วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสและอุปสรรคของบริษัท เพื่อให้การดำเนินกิจกรรม CSR ของไทยประกันชีวิต เป็น ไปอย่างมีแบบแผนและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

สรุปยุทธศาสตร์ 3 ด้านชัดเจน “ให้-ดูแล-เติมเต็ม” คุณค่าชีวิต

ไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ผลสรุปการจัดทำแผนแม่บทยุทธศาสตร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์แรก “ด้านการให้” ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความผูกพันกับสังคมไทยที่ไม่ทอดทิ้งกัน โดยการดำเนินกิจกรรมจะอยู่ภายใต้โครงการ “หนึ่งคนให้...หลายคนรับ กับไทยประกันชีวิต” ที่กระตุ้นการเป็นผู้ให้เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน ในสังคม อาทิ ร่วมกับสภากาชาดไทย รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการบริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ และเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต หรือร่วมกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สนับสนุนทุนฝึกอบรมอาชีพแก่ผู้พิการ การจัดทำรายการโทรทัศน์พบหมอศิริราช เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์ การสาธารณสุขขั้นมูลฐานแก่ประชาชน

ยุทธศาสตร์ที่ 2 “ด้านการดูแลชีวิตคนไทย” ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความห่วงใย ด้วยไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมาโดย ตลอด ผ่านการพัฒนาสินค้า ที่ให้ความคุ้มครองคนไทยในทุกระดับ โดยเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวที่รับประกันชีวิตทหาร ทั้งทหารบก ทหารเรือและทหารอากาศ การรับประกันชีวิตผู้พิการ รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต เช่น ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ ที่สุดแห่งบริการที่ มากกว่าการประกันชีวิต ซึ่งให้บริการ ทางการแพทย์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกันแห่งแรกของธุรกิจที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในธุรกิจ

ขณะเดียวกันบริษัทยังดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และยึดมั่นต่อการดูแลชีวิตผู้เอาประกัน เห็นได้จากการจ่ายเงิน สินไหมและเงินผลประโยชน์แก่ผู้เอาประกันอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และรวดเร็ว โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา บริษัทดำเนินการจ่ายสินไหมและเงินผลประโยชน์รวมทั้งสิ้น 11,965.7 ล้าน บาท แบ่งเป็นเงินสินไหมกว่า 4,740 ล้าน บาท เงินผลประโยชน์ทั้งในส่วนเงิน ปันผล เงินคืนตามเงื่อนไข และเงินครบ กำหนดสัญญา 7,225.7 ล้านบาท

และสุดยุทธศาสตร์ที่ 3 “ด้าน การเติมเต็มคุณค่าแห่งชีวิต” ยุทธศาสตร์นี้เป็นการเพิ่มความสุขให้แก่คนรอบข้าง เพื่อให้สังคมอยู่ดีมีสุข โดยเริ่มจากการเติมเต็มคุณค่าในการ ดำรงชีวิตของบุคลากร ทั้งบุคลากรประจำ และบุคลากรฝ่ายขาย ด้วยการ พัฒนาศักยภาพ รวมทั้งทักษะความรู้ ความเป็นมืออาชีพ และจริยธรรม เพื่อ ให้พร้อมส่งมอบความสุข นั่นคือ การสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่ลูกค้า ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในปีนี้คือ การเพิ่มหน่วย ของความสุข หรือการเพิ่มจำนวนกรมธรรม์ใหม่ 613,613 กรมธรรม์ในปีนี้นั่นเอง

ยุทธศาสตร์ทั้ง 3 ด้านของไทยประกันชีวิตนี้ ถือเป็นการนำบริการเด่น ที่มีอยู่มาจัดหมวดหมู่ เพื่อให้ครอบคลุมกับภารกิจการดูแลสังคมไทยที่วางไว้มาตั้งแต่ต้น และไม่ใช่เพียงการทำ CSR อย่างเป็นระบบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการ ประกาศมาตรฐาน ISO20006 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ได้ราวปี 2553 อีกด้วย

ดังนั้น วินาทีนี้กิจกรรมด้าน CSR ของบริษัทประกันชีวิตจึงไม่ใช่เพียงแค่กิจกรรมที่ใครๆ ก็ “คิดได้ ทำได้” ขอเพียงแค่มีงบประมาณเท่า นั้นอีกต่อไป แต่ยังเป็น 1 ในยุทธศาสตร์เพื่อการแข่งขันในธุรกิจประกันชีวิตไทยในยุคนี้อีกด้วย ไม่อย่างนั้นค่ายใหญ่แบรนด์ดังอันดับ 2 ของตลาดอย่าง “ไทยประกันชีวิต” คง ไม่ขยับตัวประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน และเป็นระบบเช่นนี้แน่

ที่มา สยามธุรกิจ
ประจำวันที่ 21-3-2009 ถึง 24-3-2009
http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413336004



ไม่มีความคิดเห็น: