ในการเปิดตัว โครงการ "ซีเอสอาร์แคมปัส" ปี 2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงถือเป็นก้าวต่อไปในการเคลื่อนขบวนไปให้ความรู้เรื่องซีเอสอาร์สู่ภูมิภาค โดยมีพื้นที่เป้าหมาย 75 จังหวัด และปิดท้ายที่กรุงเทพฯเช่นเดิม เพียงแต่มีการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ เข้าอบรมมากยิ่งขึ้น
ทำให้เนื้อหาการอบรมในปีนี้จะมีการ ยกระดับเนื้อหาเข้าสู่การทำซีเอสอาร์เชิงระบบที่คำนึงถึงตัวบ่งชี้ความ สำเร็จทั้งในระดับปัจจัยนำเข้า (input) ผลผลิต (output) ผลลัพธ์ (outcome) และผลกระทบ (impact) ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินผลกิจกรรมซีเอสอาร์ขององค์กร
ดร. พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากการเข้าไปขับเคลื่อนซีเอสอาร์ในทุกจังหวัดก็มีการสำรวจความต้องการของผู้ เข้าอบรมว่า หากต้องมีการจัดโครงการซีเอสอาร์แคมปัสต่ออยากได้เนื้อหาแบบไหน ก็พบว่า 61% ต้องการรู้เรื่องการทำซีเอสอาร์เชิงระบบ ในขณะที่ 20% ต้องการวิธีการวัดและประเมินผลในการทำซีเอสอาร์ และมีเพียง 10% ที่ต้องการเรียนรู้ในด้านพื้นฐาน จากข้อมูลตรงนี้ทำให้เราตัดสินใจที่จะพัฒนาเนื้อหาสู่การทำซีเอสอาร์เชิง ระบบ นอกจากนี้จะเน้นไปที่กลุ่ม Young CSR ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อน ธุรกิจควบคู่กับซีเอสอาร์ในอนาคต
"ปีที่แล้วเรามีผู้เข้าร่วมกิจกรรม หลากหลาย ทั้งผู้ประกอบการ ภาคประชาสังคม และหน่วยงานรัฐ แต่ปีนี้จะเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ กลุ่มทายาทนักธุรกิจ และกลุ่มผู้ประกอบการสังคมที่เป็นความเคลื่อนไหวใหม่ในสังคมไทย รวมถึงกลุ่ม นักศึกษาภายใต้โมเดล Young CSR ส่วนเนื้อหาจะเพิ่มวิชาหน้าที่พลเมือง ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะ"
สำหรับโครงการซีเอสอา ร์แคมปัส ปี 2 จะเริ่มเดินสายในเขตภาคกลาง 25 จังหวัดในเดือนมิถุนายนนี้ ต่อเนื่องด้วยเขตภาคอีสาน 15 จังหวัดในเดือนสิงหาคม และเขตภาคใต้ 14 จังหวัดในเดือนตุลาคม และ ปิดท้ายโครงการที่กรุงเทพฯ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น