วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"อย่าแค่สร้างกระแส แต่ไม่ให้ความรู้




คุณ หญิงชดช้อย โสภณพนิช หนึ่งในวิทยากรรับเชิญในหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการ CSR Academy ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมมายาวนานก่อนที่คำว่า CSR จะเป็นที่รู้จักด้วยซ้ำ ในฐานะผู้ทำงานเพื่อสังคมมายาวนาน ไม่ว่าการรณรงค์เรื่องการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการที่เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จในอดีตอย่าง "ตาวิเศษ" และยังคงทำงานเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน

ตั้งข้อสังเกต ท่ามกลางกระแสการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่มีมากมายจนบางคนเรียกเป็นแฟชั่นว่า "ตอนนี้เราจะเห็นว่าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ เรื่องโลกร้อน เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่นิยมมาก จะเห็นได้จากภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ รวมไปถึงการแจกถุงผ้า ตอนนี้หลายคนมีเป็น 10 ใบ แต่ถามว่าการรณรงค์ในลักษณะนี้แก้ปัญหาและสร้างจิตสำนึก

ให้คน ตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้ถุงพลาสติกมาเป็นการใช้ ถุงผ้าได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่เลือกที่จะแจกถุงผ้าอย่างเดียว"

" ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่เวลาคิดกิจกรรม ให้ลองมองถึงความพิเศษในเรื่องของการให้ความรู้ ใส่เพิ่มเข้าไปอีกระดับหนึ่ง ถ้าจะแจกถุงผ้าก็อาจจะเขียนว่า เก็บฉันไว้ในรถ เก็บฉันไว้ในที่ทำงาน อยากให้ใส่ความรู้ลงไปในนั้นว่าจะใช้ถุงผ้าไปเพื่ออะไร ตอนไหน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับการที่จะไม่ใช้ถุงพลาสติก"

" ส่วนมากที่บริษัทต่างๆ ทำอยู่ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของการสร้างกระแส แต่สิ่งที่ต้องทำมากกว่านั้นคือการให้ความรู้ และสำคัญที่สุดที่ต้องทำให้ได้คือการทำให้เกิดการปฏิบัติ (action) หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่ผ่านมาที่เคยทำกับตาวิเศษ เราไม่ได้โฆษณาอย่างเดียว แต่ทุกครั้งที่เราคิดโครงการหรือกิจกรรม เราต้องมองว่าเป้าหมายคืออะไร กำลังจะทำอะไร และจะสื่อออกไปภายนอกอย่างไรเพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของ เรา"

"เวลาจะเปิดตัวแต่ละกิจกรรม เราใช้เวลาหลายเดือนในการคิดและหาพันธมิตรที่จะมาร่วมทำโครงการ เราเชื่อว่าพันธมิตรมีส่วนสำคัญในการทำให้โครงการประสบความสำเร็จ ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจ เชื่อว่าไม่มีใครสามารถทำเองได้ 100% แล้วจะประสบความสำเร็จ การที่เราลงทุนทำ CSR แล้ว สิ่งสำคัญคือความยั่งยืน ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ต้องมีกระบวนการในการทำงานเพื่อพัฒนาโครงการให้เกิด ขึ้น"

"และต้องไม่ลืมกระบวนการในเรื่องของการเชื่อมโยงธุรกิจของตัว เองให้เข้ากับงานสังคมที่ต้องการจะขยายผล เพื่อนำจุดแข็งที่องค์กรมีสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมให้เกิดประสิทธิผลสูง สุด"

ที่มา หนังสือพิมพ์ปรชาชาติธุรกิจ วันที่ 25 สิงหาคม2551
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr02250851&day=2008-08-25&sectionid=0221

ไม่มีความคิดเห็น: