วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

Synergy ต้นแบบพลังร่วม ธุรกิจเพื่อสังคม

" โรนัลด์ แมคโดนัลด์ วิชั่น แคร์ โมบาย" (Ronald Mcdonald Vision Care Mobile) หน่วยบริการตรวจสายตาและสุขภาพเคลื่อนที่ซึ่ง มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย ได้จัดทำขึ้น โดยออกแบบให้รถบรรทุกขนาดใหญ่มีการติดตั้งอุปกรณ์ในการตรวจวัดสายตาด้วยระบบ ดิจิทัล ซึ่งทันสมัยที่สุด โดยนับตั้งแต่วันที่เปิดตัวโครงการเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา รถคันนี้จะเดินสายให้บริการตรวจสายตาและสุขภาพให้กับเด็กๆ ทั่วประเทศ จนถึงเดือนธันวาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 94 ครั้ง

โดยรถคันนี้ถือเป็นรถ คันที่ 33 ของมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ฯ ทั่วโลก ซึ่งเป็นหน่วยเคลื่อนที่ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งทำมาแล้วกว่า 36 คัน โดยประเทศไทยถือเป็นลำดับที่ 33 เพียงแต่จะแตกต่างกันที่ประเด็นทางสังคมที่มีต่างกัน บ้างก็เป็นรถที่ออกแบบโดยติดตั้งอุปกรณ์ทำฟัน บ้างก็เป็นรถที่ติดตั้งอุปกรณ์ลบรอยสัก ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละประเทศ

แต่แม้ ว่าจะมีอายุเพียงไม่กี่เดือนแต่สิ่งที่ "โรนัลด์ แมคโดนัลด์ วิชั่น แคร์ โมบาย" ในไทยนั้นได้รับความสนใจจากมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ ในประเทศอื่น เป็นเพราะกระบวนการคิดที่แตกต่าง และเร็วๆ นี้ บทเรียนจากการทำงานในประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นต้นแบบของการทำหน่วยรถเคลื่อน ที่ของมูลนิธิทั่วโลก

"สายชล ทรัพย์มากอุดม" เลขาธิการมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า "เราคิดกลับกับที่ประเทศอื่นคิด ส่วนใหญ่ทุกคนจะมองว่าจะสร้างรถขึ้นมาได้อย่างไร แล้วค่อยคิดว่าจะทำงานอย่างไร ในหลายประเทศพอสร้างรถเสร็จหลายครั้งมีปัญหาในการนำรถลงพื้นที่"

" ก่อนที่เราจะสร้างรถเราจึงพยายามหาภาคีที่จะเข้ามาช่วยโดยนำความสามารถหลัก ของแต่ละองค์กรมาร่วมกันเพื่อที่จะให้ภารกิจนี้บรรลุเป้าหมาย"

ใน โครงการนี้ "มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ฯ" เป็นผู้จัดสรรงบประมาณในการจัดสร้างรถ โดยมี "แมคโดนัลด์" เป็นผู้อุทิศอาสาสมัครลงพื้นที่ครั้ง

มี "ห้างแว่นท็อปเจริญ" ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา เป็นภาคีที่นำความเชี่ยวชาญในการตรวจวัดสายตามาเสริมความแข็งแกร่งและให้ บริการตัดแว่นฟรีให้กับเด็กที่มีปัญหาด้านสายตา

มี "โรงพยาบาลพญาไท" ที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ มาเป็นภาคีที่นำแพทย์และ เจ้าหน้าที่ซึ่งมีองค์ความรู้ด้านสุขภาพ มาช่วยเหลือในการตรวจสุขภาพ

และ ที่สำคัญ ยังได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาด ไทย มาเป็นภาคีที่ทำให้การคัดเลือกพื้นที่และการเข้าถึงพื้นที่ซึ่งมีความต้อง การจริงเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น

หม่อมราชวงศ์จิยากร เสสะเวช กรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย กล่าวว่า "ปัจจุบันแม้สภากาชาดไทยจะมีหน่วยบริการตรวจสุขภาพ แต่ปีหนึ่งๆ ยังมีพื้นที่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงเห็นว่าโครงการนี้จะช่วยได้ เราจึงให้การสนับสนุนเพราะ ลำพังธุรกิจเองคงประสานงานกับรัฐค่อนข้างยาก

และ จนกว่าจะจบโครงการใน 5 ปีเชื่อว่าจะสามารถเปิดโอกาสให้เด็กเข้าถึงการตรวจสุขภาพและตรวจวัดสาย ตากว่าในระดับ 30,000-40,000 คน "สายชล" กล่าวว่า "ถ้าไม่มีการทำงานร่วมกันคงไม่สามารถทำงานได้ถึงขนาดนี้ และนโยบายที่คุณวิชา (วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ฯ) ให้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่ทำโครงการคือเราจะต้องร่วมมือกัน (synergy) โดยไม่ปิดกั้นและแบ่งว่าเป็นค่ายใคร ซึ่งถึงวันนี้เราก็ยังต้องการองค์กรภาคีที่จะมาเข้าร่วมอยู่ โดยเฉพาะความต้องการอาสาสมัคร"

สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rmhc.or.th

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr02020252&day=2009-02-02&sectionid=0221


ไม่มีความคิดเห็น: