วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

CSR นอกบ้าน มีโครงการสังคมรออยู่มาก


โดย ดร.พรชัย ศรีประไพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อิมพีเรียล พลาซ่า กรรมการมูลนิธิรักษ์ไทย

วันนี้ได้เวลามาคุยกันเรื่อง CSR นอกบ้าน ซึ่งก็จะเป็น CSR ที่มีขอบเขตกว้างออกไป และมีโครงการที่น่าสนใจรออยู่อีกมาก

ที่ ผ่านมาผมได้พูดถึง CSR ในบ้านที่หมายถึงการวางเป้าหมายและวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นจิตสำนึกด้าน ประสิทธิภาพในการทำงานควบคู่ไปกับจิตสำนึกทางด้านสังคมและด้านธรรมาภิบาล

ผม ได้พูดถึง CSR รอบรั้วบ้าน หรือการออกไปทำงานสังคมร่วมกับชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงหน่วยงานต่างๆ ขององค์กรไม่ว่าจะเป็นชุมชนใกล้สำนักงานใหญ่ ใกล้หน่วยงานผลิต หน่วยงานขาย หรือหน่วยงานกระจายสินค้า

CSR รอบรั้วบ้านจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของบริษัทกับเพื่อนบ้านและชุมชนดีขึ้น ทำให้ชุมชนและพนักงานใกล้ชิดกันมากขึ้น มีกิจกรรมร่วมกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน การทำงาน CSR กับชุมชนมักจะเห็นผลเร็ว องค์กรมีโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนง่ายขึ้น

คราวนี้จะมาพูดถึง CSR นอกบ้านบ้าง CSR นอกบ้านเป็น CSR ที่ทำได้ยากหน่อย อาจจะต้องมีการวางแผนระยะยาว มีการลงทุนพอประมาณ และที่สำคัญก็คือ ต้องมี commitment ที่มั่นคงและแน่วแน่ก่อนที่จะทำ CSR นอกบ้าน สิ่งแรกที่องค์กรจะต้องคำนึงถึงก็คือ เป้าหมายของการทำ CSR ของบริษัทเอง พร้อมกับกลยุทธ์ที่จะนำ CSR มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งกับสังคมและบริษัทเอง

บางบริษัทวาง เป้าหมายว่าสังคมมีความต้องการหลากหลาย และบริษัทก็อยากที่จะตอบสนองสังคมให้ได้มากที่สุดเท่าที่บริษัทจะทำได้ จึงต้องพยายามทำ CSR ให้รอบด้านมากที่สุดนั่นก็คือ พยายามเข้าไปมี ส่วนร่วมกับโครงการต่างๆ อย่างครอบคลุม กลยุทธ์หลักก็คือ พยายามสร้าง exposure ด้านสังคมให้กับบริษัทให้กว้างขวางที่สุด ดังนั้นจึงต้องพยายามกระจายทรัพยากรลงไปทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน สิทธิมนุษยชน ภัยพิบัติ ความไม่เสมอภาค และสภาวะด้อยโอกาส ฯลฯ

การทำโครงการมากๆ นอกจากจะช่วยองค์กรทางด้าน PR และภาพลักษณ์แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ทางสังคมที่หลากหลายให้กับพนักงานด้วย

ใน ทางตรงกันข้ามหลายๆ บริษัทอาจจะยึดมั่นในกลยุทธ์แบบ focus คือ เน้นโครงการใดโครงการหนึ่งเป็นหลัก เพื่อสร้าง identity และจุดยืนของบริษัทให้ชัดเจน และยิ่งถ้าจุดยืนทางสังคมกับจุดยืนทางธุรกิจเป็นไปในแนวทางเดียวกันผลตอบแทน ที่ได้จากการทำ CSR ก็จะคุ้มค่ามากขึ้น เพราะบริษัทเองก็จะได้เรียนรู้จากกลุ่มสังคมที่อาจจะเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่ม ลูกค้า เข้าใจความต้องการของสังคมดีขึ้น สามารถนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการของตนให้ดีขึ้นด้วย

เรามักจะเห็น บริษัทใหญ่ๆ เช่น บริษัทรถยนต์ บริษัทน้ำมัน บริษัทเคมีภัณฑ์ บริษัทที่ดำเนินอุตสาหกรรมใหญ่ๆ จะสนใจปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และจะทุ่มเททรัพยากรในการที่จะปรับปรุงระบบงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพมาก ขึ้น พยายามหาวิธีลดหรือแก้ไขปัญหาที่จะมากระทบสังคม พยายามที่จะลดความเสี่ยงและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อที่จะให้เป็นที่ยอมรับกับสังคม

กระนั้นก็ดี มีหลายบริษัทเลี่ยงที่จะทำ CSR ในเรื่องที่ใกล้ชิดกับตัวเองเกินไป โดยเฉพาะเรื่องที่อาจจะเกี่ยวโยงไปถึงผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการทำงานของบริษัท ตน หันไปทำเรื่องอื่นๆ ที่ห่างไกลตัวเองมากกว่า เหตุผลหลักของบริษัทประเภทนี้ต้องการเลี่ยงการทำงาน CSR ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์ของตนมากเกินไปก็คือ กลัวว่าสังคมอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าการทำงาน CSR นั้นทำเพราะ "รู้สึกผิด" (มี guilt-feeling) หรือทำเพื่อกลบเกลื่อนมากกว่าที่จะทำอย่างจริงใจ บริษัทเหล่านี้อาจจะมีกระบวนการภายในที่พยายามปรับปรุงวิธีการผลิตของตนให้ ดีขึ้น อาจจะพยายามหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพื่อลดปัญหา แต่จะเป็นการทำ CSR ภายในบ้านของตนเอง ขณะเดียวกันก็หันมาทำโครงการ CSR นอกบ้านโดยเน้นเรื่องไกลตัว อาจจะทำเรื่องสุขภาพ ความด้อยโอกาสการศึกษา หรือประเด็นปัญหาสังคมอื่นๆ ไม่ว่าองค์กรจะเลือกจุดยืน เป้าหมาย และกลยุทธ์แบบใดก็ตาม CSR นอกบ้านจะขยายส่วน CSR ขององค์กรให้เข้มแข็งขึ้นไปอีก ขยายประสบการณ์และความรู้ของทีมงานออกไปยังจุดที่ห่างไกลและไม่

คุ้นเคย CSR นอกบ้านจะเป็นบทพิสูจน์ความเข้มแข็งและการอุทิศตนเองให้กับปัญหาของสังคม

CSR นอกบ้านอาจจะดูว่าเป็นภาระที่ค่อนข้างใหญ่ แต่บริษัทหรือองค์กรที่มุ่งมั่นก็ไม่ควรจะกังวล เพราะในปัจจุบันมีโครงการทางสังคมที่หน่วยงานภาคเอกชน (NGOs) รับภาระกันอยู่มากมาย องค์กรเอกชนเหล่านี้ล้วนพร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจกับบริษัททั้งใหญ่และเล็ก ที่จะเลือกโครงการ CSR ที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับบริษัท อย่างเช่น มูลนิธิรักษ์ไทยที่ผมเป็นกรรมการอยู่มีโครงการที่รับผิดชอบอยู่ทั้งหมด 5 ประเภท ใน 32 จังหวัดทั่วประเทศไทยดังนี้ 1.โครงการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 2.โครงการด้านเอดส์และสุขภาพ 3.โครงการด้านการส่งเสริมอาชีพ 4.โครงการด้านการส่งเสริมการศึกษา 5.โครงการด้านการบรรเทาสาธารณภัย

นอกจากประเภทใหญ่ๆ 5 ประเภท ดังกล่าวแล้ว ยังมีโครงการย่อยๆ หรือโครงการที่ร่วมมือกับมูลนิธิอื่นๆ อีกมากมาย

เห็นไหมครับว่าเรามีโครงการทางสังคมรออยู่มาก รอให้ท่านเปิดประตูรั้วทางสังคมออกมา แล้วมาร่วมทำ CSR นอกบ้าน ด้วยกัน


ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02csr03020252&day=2009-02-02&sectionid=0221


ไม่มีความคิดเห็น: